OPEN 10.00 AM - 08.00 PM

เกลารากฟัน

เพื่อได้ฟันสวยพร้อมสุขภาพฟันที่ดีที่สุด

เกลารากฟันคืออะไร  ไขคำตอบการเกลารากฟัน

“หินปูน” ปัญหาในช่องปากที่ทำให้หลายๆ คน หมดความมั่นใจ เพราะหินปูนจะทำให้ฟันมีสีที่คล้ำขึ้น อีกทั้งยังดูไม่สวยงาม นอกจากนี้ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปาก ก่อให้เกิดอาการต่างๆ เช่น มีกลิ่นปาก เหงือกอักเสบ เหงือกร่น รวมทั้งกระดูกเบ้าฟันโยก แต่ทุกคนไม่ต้องกังวลไปเพราะปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วย การเกลารากฟัน ที่จะช่วยให้คุณมั่นใจในรอยยิ้มและยังทำให้มีสุขภาพช่องปากที่ดี แต่ว่าเกลารากฟันคืออะไร? ต้องมาติดตามได้ในบทความนี้

เกลารากฟัน คืออะไร มาหาคำตอบกัน!

เวลาที่เศษอาหาร น้ำลายและจุลินทรีย์ในปากของเรามาเจอกัน ก็จะตามมาด้วยการเกิดคราบหินปูนที่จะเคลือบผิวฟันเราอยู่เสมอ ซึ่งในช่วงแรกคราบเหล่านี้จะมีลักษณะที่อ่อนนิ่มสามารถทำความสะอาดโดยการแปรงฟันออกไปได้ แต่ก็จะมีหลายส่วนที่ทำความสะอาดได้ยาก เช่น บริเวณซอกฟันหรือรากฟัน ที่มักจะมีการตกค้างของคราบหินปูนจนเกิดการแข็งขึ้นเป็นคราบหินปูนสะสม ซึ่งคราบหินปูนเหล่านี้นำมาซึ่งปัญหากลิ่นปาก ฟันผุและโรคเหงือกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเหงือกอักเสบ เหงือกดำ
ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ที่ว่า ระยะเวลาของการขูดหินปูนที่เหมาะสมจะอยู่ที่ทุกๆ 6 เดือน เพื่อป้องกันการสะสมคราบฝั่งลึกนั่นเอง แต่สำหรับบางกรณีที่คราบสะสมฝั่งลึกลงไปจนถึงรากฟันที่อยู่ใต้เหงือก จึงทำให้ต้องทำความสะอาดอย่างล้ำลึกที่เรียกว่า การเกลาฟัน

และการเกลารากฟันคืออะไรล่ะ? คำตอบก็คือ การขูดหินปูนและเนื้อเยื่ออักเสบที่อยู่ลึกลงไปใต้เหงือกมากๆ ซึ่งจะต้องทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์เมื่อพบว่ามีหินปูนสะสมอยู่ใต้เหงือก ข้อดีของการเกลารากฟันจะช่วยแก้ปัญหาเรื้อรังอย่างกลิ่นปาก ช่วยให้เหงือกแข็งแรง และทำให้ฟันแนบชิดกับเหงือกไม่โยกไปมา ทำให้คุณสามารถมั่นใจในรอยยิ้มและช่วยให้สุขภาพของช่องปากดีขึ้น
สัญญาณที่บ่งบอกว่าถึงเวลาเกลารากฟันได้แล้ว
ในหัวข้อนี้จะพามาดูอาการต่างๆ ที่ส่งสัญญาณว่าเราอาจจะพบทันตแพทย์โดยเร็วเพื่อทำการเกลารากฟัน สร้างความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้ง
• มีกลิ่นปากง่าย แม้จะเพิ่งแปรงฟันไปไม่นาน
• เหงือกมีการอักเสบบ่อย มีการบวม ปวดอยู่เป็นระยะ
• มีอาการเหงือกร่น
• ฟันไม่แข็งแรง สามารถโยกไปมาได้
• มีฝีปริทันต์ มีหนอง บริเวณเหงือก
• มีเลือดออกตามไรฟัน หรือตามเหงือกเวลาแปรงฟัน
ซึ่งหากปล่อยไว้อาการเหล่านี้ก็จะคงอยู่ต่ออย่างเรื้อรัง ไม่หายไปไหน และอาจทำให้เนื้อฟันสึกกร่อนจนเกิดฟันผุ ฟันห่างขึ้น หรือทำให้เหงือกร่นจนมีอาการเจ็บปวดตามเหงือกได้
รู้ได้อย่างไร? ว่าต้องเกลารากฟันทั้งปาก หรือ แค่บางซี่
การทำการรักษาเกลารากฟัน จะขึ้นอยู่กับการประเมินของทันตแพทย์ผู้ทำการรักษา ว่าสุขภาพช่องปาก และฟันของเราจะต้องรักษาการเกลารากฟันแบบทั้งปากหรือเพียงบางซี่ หากทันตแพทย์ประเมินแล้วว่ามีปัญหาหลายซี่ และรุนแรงก็จะต้องทำการรักษาหลายซี่ แต่ทั้งนี้การเกลารากฟันสามารถทยอยทำการรักษาได้ ไม่จำเป็นต้องเกลารากฟันทีเดียวทั้งปากใน 1 ครั้ง

ขั้นตอนการเกลารากฟัน

มาถึงขั้นตอนที่หลายคนอยากรู้ว่าการเกลารากฟันจะมีวิธีการอย่างไรบ้าง ซึ่งในเบื้องต้นทางทันตแพทย์จะดำเนินการตามนี้
1.ในขั้นตอนแรกทันตแพทย์จะเริ่มจากการขูดหินปูนที่บนตัวฟันและขอบเหงือกออกให้หมดก่อน เพื่อทำความสะอาดก่อนการเกลาฟัน
2.ในบางกรณีจะมีการฉีดยาชาเพื่อระงับหรือบรรเทาอาการเจ็บปวดให้คนไข้
3.หลังจากนั้นจะเริ่มการเกลารากฟัน เพื่อกำจัดหินปูนที่อยู่ใต้เหงือก โดยในบางกรณีอาจจะต้องมีการเปิดลงลึก ทำให้ต้องมีการเย็บเหงือกหลังรักษาเสร็จ ซึ่งขั้นตอนนี้จะไม่มีความเจ็บ เพราะว่ามีการฉีดยาชาก่อนเสมอ
4.เมื่อเสร็จสิ้นแล้วก็จะมีการนัดพบกับทันตแพทย์ เพื่อดูว่าเหงือกมีการสมานดีหรือไม่ รวมทั้งติดตามอาการต่างๆ
ประโยชน์เพียบ! เปิดข้อดีของการเกลารากฟันที่คุณอาจไม่เคยรู้
ใครที่ยังสงสัยและไม่มั่นใจว่าการเกลารากฟันนั้นช่วยอะไร และข้อดีของการเกลารากฟันนั้นมีอะไรบ้าง ในหัวข้อนี้จะมาเปิดข้อดีและประโยชน์ที่คุณจะได้รับหลังเกลารากฟัน
ลดปัญหากลิ่นปาก
การสะสมของจุลินทรีย์ที่อยู่ใต้เหงือกทำให้มีปัญหากลิ่นปาก ซึ่งการเกลารากฟันจะช่วยลดปัญหาส่วนนี้ได้ ทำให้คุณสามารถพูดและยิ้มได้อย่างมั่นใจได้
ฟันแข็งแรงขึ้น
หากตามซอกฟันมีหินปูนเกาะเป็นระยะเวลานานๆ จะทำให้ฟันเกิดความสึกกร่อน หรือเกิดการผุได้ และยังทำให้เหงือกห่างจากฟัน หรือเหงือกไม่แข็งแรง ทำให้รากฟันไม่แข็งแรงและเกิดอาการโยกไปมาได้ เมื่อกำจัดหินปูนที่ซ่อนลึกอยู่ในเหงือกออก ฟันก็จะมีฐานยึดกับเหงือกได้ดีขึ้น ทำให้ฟันแข็งแรง
เสริมสร้างสุขภาพเหงือกที่ดี
หินปูนเป็นที่สะสมของแบคทีเรียสามารถก่อให้เกิดอาการเหงือกอักเสบได้ และสิ่งสกปรกหรือหินปูนที่อยู่ลึกใต้เหงือกนั้นอาจจะไปเบียดกับเหงือก ทำให้เหงือกไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ ดังนั้น การเกลารากฟันจึงช่วยให้เหงือกมีสุขภาพดีขึ้น
ป้องกันการเกิดโรคปริทันต์
โรคปริทันต์คือ การอักเสบของอวัยวะรอบๆ ฟัน เช่น เหงือกหรือเอ็น ซึ่งหากปล่อยให้โรคปริทันต์เกิดขึ้นนั้นอาจจะทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมาก เพราะอวัยวะเหล่านั้นถูกทำลายอย่างช้าๆ จนสุดท้ายอาจจะต้องสูญเสียฟันไป นั่นหมายความว่าการวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้คือ การเกลารากฟัน เพราะจะเป็นการทำความสะอาดล้ำลึกไปยังรากฟัน ส่งผลให้เหงือกแข็งแรง
ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายอื่นๆ
สุขภาพช่องปากที่ดีก็จะนำมาซึ่งสุขภาพอื่นๆ ที่ดีตามไปด้วย เช่น เมื่อฟันและเหงือกมีสุขภาพดีก็สามารถเคี้ยวอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดปัญหาด้านสุขภาพอื่นๆ นอกจากนี้ยังส่งผลถึงความมั่นใจอีกด้วย ทำให้คุณกล้ายิ้ม กล้าพูดได้อย่างไม่ต้องกังวล

เคล็ดลับดูแลตัวเองหลังทำการเกลารากฟัน

หลังจากการเกลารากฟันแล้วอาจจะมีอาการต่างๆ ตามมาบ้าง เช่น
• อาจมีการเสียวฟัน อาการนี้อาจจะพบ และหายไปเองภายในหนึ่งสัปดาห์ ถ้ามีอาการเสียวฟันมาก อาจใช้ยาสีฟันลดการเสียวฟันช่วยได้ และพยายามเลี่ยงยาสีฟันกลุ่ม Whitening เพราะจะทำให้อาการเสียวฟันเพิ่มมากขึ้น
• หากคนไข้เป็นโรคปริทันต์ เมื่อเกลาฟันไปแล้วจะเกิดฟันโยกมากขึ้น แต่ไม่ต้องเป็นห่วงไปเพราะหลังจากนั้นฟันจะค่อยๆ แน่น ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าต้องมีการจัดการเหงือกบางส่วนออก เพื่อกระตุ้นให้เหงือกที่กำลังจะเติบโตใหม่ติดกับฟันใหม่
• สำหรับคนไข้ที่เหงือกร่นจะรู้สึกว่ามีช่องระหว่างฟันมากขึ้น ซึ่งแต่เดิมพื้นที่นี้เคยมีเหงือกอยู่ แต่ถูกหินปูนทำให้เหงือกร่นไป สามารถปล่อยไว้ให้เหงือกโตมาเติมเต็มได้ หรือหากมีช่องว่างมากสามารถปรึกษาทันตแพทย์ต่อเนื่องได้
• ในคนไข้ที่เกลารากฟันจากโรคปริทันต์อักเสบ อาจจะมีเลือดซึมในวันแรกๆ ให้กัดผ้าก๊อซและบ้วนน้ำเกลือ เพื่อทำความสะอาดลดการติดเชื้อ